All-new Toyota PRIUS 2023 ใหม่ ถูกเปิดตัวพร้อมวางขายอย่างเป็นทางการ แล้วที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่นย่อย เคาะราคาขายเริ่มตั้งแต่ 2,990,000 เยน ไปจนถึง 3,920,000 เยน หรือราว ๆ 750,000 – 990,000 บาทเท่านั้น
Toyota PRIUS เจเนอเรชันที่ 5 ใหม่ ถูกวางขายในประเทศญี่ปุ่น โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 เกรด ได้แก่ Z, G รวมทั้ง U โดยที่รุ่น Z แล้วก็ G ถูกติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 2.0 ลิตร ระหว่างที่รุ่น U จะถูกติดตั้งเครื่องยนต์ไอบริดขนาด 1.8 ลิตร
โดยทุกรุ่นสามารถ เลือกได้ทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า แล้วก็ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four ระหว่างที่รุ่น U จะถูกวางจำหน่ายผ่านบริการเช่าระยะยาว KINTO เท่านั้น ไม่สามารถที่จะซื้อขาดได้เช่นเดียวกับรุ่น Z และ G

Toyota PRIUS ที่วางขายในประเทศญี่ปุ่น
มีรูปลักษณ์ลักษณะเดียวกันกับที่เปิดตัว ในอเมริกาไปก่อนหน้านี้ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริดรหัส M20A-FXS ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร
กำลังสูงสุด 152 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 188 นิวตัน-เมตร และก็มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 113 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 206 นิวตัน-เมตร ขณะที่รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four จะถูกเสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าข้างหลังที่มีกำลังสูงสุด 41 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 84 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ E-CVT
ส่วนรุ่น U ที่วางขายผ่านบริการ KINTO นั้น ถูกใส่เครื่องยนต์ไฮบริดรหัส 2ZR-FXE ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร รวมทั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 185 นิวตัน-เมตร
รวมทั้งรุ่น E-Four ถูกเพิ่มด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าข้างหลังชุดเดียวกับ รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ E-CVT ด้วยเหมือนกัน
All-new Toyota PRIUS เวอร์ชันญี่ปุ่นรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 28.6 กม./ลิตร (หรือ 26.7 กิโลเมตร/ลิตร เมื่อติดตั้งหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ที่ส่งผลให้น้ำหนักตัวรถยนต์มากขึ้น 20 กก.) ระหว่างที่รุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร
มีอัตราสิ้นเปลืองดีกว่าเล็กน้อยอยยู่ที่ 32.6 กิโลเมตร/ลิตร (หรือ 30.7 กิโลเมตร/ลิตร เมื่อติดตั้งหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ) ภายใต้มาตรฐานการทดลอง WLTC
สำหรับ ToyotaPRIUS ที่วางจำหน่ายในญี่ปุ่น มีการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐาน อาทิเช่น ไฟหน้าแบบ Full LED, ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว, จอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว, จออินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมระบบนำทางในตัว, กระจกมองหลังแบบดิจิทัล, เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์ ปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทางฝั่งผู้ขับขี่ พร้อมเมมโมรี่ 2 ตำแหน่ง, ระบบปรับอากาศ nanoe X, ช่องจ่ายไฟแบบ AC สูงสุด 1,500 วัตต์, ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Toyota Teammate รวมทั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense
ส่วนการเปิดตัว ToyotaPriusPHEV ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดที่ญี่ปุ่น จะตามมาในตอนมีนาคม 2566 นี้

สายไฟที่ยื่นจากหน้าต่าง All-new Toyota PRIUS 2023 ใหม่ มีไว้ทำอะไร?
กลายเป็นไวรัลเบา ๆ เมื่อมีเพจดังแชร์ ภาพสายไฟที่ยื่นออกมา จากกระจกหน้าต่างของ All-new Toyota PRIUS 2023 ใหม่ สร้างความสงสัยให้ชาวเน็ตว่า แท้จริงแล้วสายที่ว่านี้คืออะไรกันแน่
ในเอกสารประชาสัมพันธ์ ของโตโยต้าระบุว่าสายดังกล่าวเป็น “External electric power supply attachment” ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า “อุปกรณ์สำหรับจ่ายกระแสไฟด้านนอก” โดยโตโยต้าบอกว่า พรีอุสใหม่ทุกคัน จะมีอุปกรณ์ดังกล่าว ติดรถมาให้ทั้งหมด
เพื่อใช้กับช่องจ่ายไฟฟ้าขนาด 1,500 วัตต์ ที่มีแรงดันไฟ 100 โวลต์ (อ้างอิงตามเวอร์ชันญี่ปุ่น) ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของคอนโซลกลาง 1 ตำแหน่ง และก็ห้องเก็บสัมภาระด้านหลังอีก 1 ตำแหน่ง
ช่องจ่ายไฟฟ้าที่ว่านี้ จะใช้สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ดังที่ผู้ใช้ต้องการ อย่างเช่น คอมพิวเตอร์พกพา, อุปกรณ์ทำอาหาร ฯลฯ ซึ่งระบบ V2L (Vehicle to Load) ของ Toyota Prius ใหม่
จะไม่เหมือนกันกับที่เจอในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ ที่มีช่องชาร์แบตเตอรี่ (รวมทั้งจ่ายไฟฟ้า) อยู่ภายนอก ในขณะที่ Prius HEV ไม่มีช่องสำหรับชาร์จแบต
จึงจำเป็นต้องเสียบอุปกรณ์ กับช่องจ่ายไฟที่อยู่ด้านในรถยนต์ โดยผู้ใช้งานสามารถ เพิ่มความปลอดภัยขณะฝนตก ด้วยการใช้แผงกั้นที่ดีไซน์มาเฉพาะ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้น้ำฝน หรือแมลงเข้าไปในรถนั่นเอง ก็เป็นที่มาว่าเพราะเหตุใด รถยนต์คันนี้ถึงมีอุปกรณ์หน้าตาแปลก ๆ ติดมาด้วย
สำหรับ ToyotaPrius รุ่นปี 2023 ใหม่ ถูกพัฒนาต่อเนื่อง มาเป็นเจเนอเรชันที่ 5 แล้ว (ระหว่างที่บ้านเรา มีวางจำหน่ายเฉพาะเจเนอเรชันที่ 3 ก่อนที่จะหยุดการทำตลาดไปอย่างน่าเสียดาย) โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นไฮบริด HEV ขนาดเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร แล้วก็ 2.0 ลิตร แล้วก็รุ่นปลั๊กอินไฮบริด PHEV ขนาด 2.0 ลิตร ที่ปรับปรุง ขนาดแบตเตอรี่ เพื่อเพิ่มระยะทางขับรถขึ้นอีก 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
ภาพคันจริง All-new ToyotaPRIUS2023 ใหม่ ก่อนประกาศราคาขายจริง
ใหม่ ถูกเผยโฉมพร้อมกันทั้งในประเทศญี่ปุ่นแล้วก็อเมริกา โดยมีระบุประกาศราคา และก็วันเริ่มขายช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ขอนำภาพคันจริงมา เรียกน้ำย่อยกันก่อน จะงามสมการรอคอยขนาดไหนไปดูกันเลย
ถูกปรับปรุงต่อเนื่องมาเป็นเจเนอเรชันที่ 5 แล้ว โดยอาศัยแพล็ตฟอร์ม TNGA เจเนอเรชันที่ 2 ภายใต้แนวคิด “Hybrid Reborn” ย้ำรูปลักษณ์ภายนอก ที่ดูสปอร์ตเฉียบยิ่งขึ้น ย้ำจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ควบคู่ไปกับล้ออัลลอยขนาดใหญ่ถึง 19 นิ้ว
ระหว่างที่เส้นสายตัวถัง ถูกดีไซน์เน้นย้ำความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ซึ่งโตโยต้ากล่าวว่า เป็นแนวทางการออกแบบที่ช่วยทำให้ตัวรถ ยังคงดูสวยถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไปก็ตาม
รูปลักษณ์ข้างหน้าถูกออกแบบให้มีลักษณะ คล้ายกับฉลามหัวค้อน ที่โตโยต้าระบุว่า เป็นการดีไซน์ที่พอดีระหว่างการใช้งาน และก็ความสวยงาม มาพร้อมไฟหน้าที่ถูกออกแบบให้เป็นรูปตัว C และก็ไฟท้ายที่ดีไซน์ เป็นเส้นตรงยาวชวนให้นึกถึงบั้นท้ายของ Toyota Mirai ขณะที่ตัวถังยังคงไว้ ซึ่งดีไซน์แบบฟาสต์แบ็ก 5 ประตูเพื่อให้มีความลู่ลมเป็นพิเศษ
ข้างในห้องโดยสารถูกดีไซน์โดยใช้แนวความคิด “Island architecture” ให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างใหญ่ เพื่อผู้ขับขี่สามารถโฟกัสไปกับการขับรถได้อย่างมาก เน้นตกแต่งด้วยโทนสีดำ เพื่อเพิ่มความสปอร์ต
อีกทั้งยังมีการนำเอาไฟ สร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient light) มาใช้เป็นสัญญาณเตือน เป็นครั้งแรกของโตโยต้า โดยหากระบบ Toyota Safety Sense ตรวจพบว่าตัวรถมีการเสี่ยงที่จะเกิดการชน ไฟบนแผงคอนโซลจะกะพริบ เพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่ก่อนที่จะสัญญาณเสียงจะดังขึ้น เพื่อการเดินทางเป็นไปโดยสวัสดิภาพ รวมทั้งผ่อนคลายมากที่สุด
All-newToyotaPRIUS ใหม่ มีให้เลือกทั้งขุมพลัง Series Parallel Hybrid ขนาด 1.8 ลิตร และก็ 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดถึง 193 แรงม้า (PS) ในรุ่น 2.0 ลิตร สูงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 1.6 เท่า ช่วยเพิ่มการตอบสนองต่อผู้ขับขี่ แต่ยังคงไว้ซึ่งความประหยัดน้ำมัน เช่นเดิม ทั้งยังมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับในการขับรถบนพื้นผิวที่มีความเปียกลื่น ยกตัวอย่างเช่น ถนนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และก็ยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพ ขณะเข้าโค้งอีกด้วย